โรคภูมิแพ้ (Allergy)ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีหน้าที่ที่จะจดจำสิ่งแปลกปลอมที่จะทำร้าย ร่างกายเรา เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสโดยการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นต่อสู้กับเชื้อโรค โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่ภูมิของร่างกายมีปฏิกิริยากับโปรตีนหรือสารก่อภูมิแพ้ allergen จากสิ่งแวดล้อมซึ่งปกติจะไม่มีอันตรายสำหรับผู้ที่ไม่แพ้ ปฏิกิริยานี้เริ่มเมื่อเราได้รับสารก่อภูมิแพ้ก็จะเกิดการสร้างภูมิที่เรียกว่า IgE antibody ตัว antibody นี้จะกระตุ้น Mast cell ให้มีการหลั่งสาร Histamin ขึ้นที่เนื้อเยื่อต่าง เช่น ผิวหนัง ปอด จมูก ลำไส้ ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ อาการแสดงจะเกิดตามอวัยวะต่างๆ เช่นลมพิษที่ผิวหนัง คัดจมูก แน่นหน้าอกเนื่องจากหอบหืด บางรายอาจจะรุนแรงถึงกับเสียชีวิตได้ Anaphylaxis shock
หาต้นเหตุและหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ทีดีที่สุดคือการค้นหาสาเหตุของการแพ้นั้นให้พบ เช่น การสอบถามประวัติและอาการของโรค พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว เช่น บ้าน รถยนต์ โรงเรียน สัตว์เลี้ยง งานอดิเรก ตรวจร่างกายและทดสอบทางผิวหนัง เมื่อทราบว่าแพ้สารใดแล้ว ควรหลีกเลี่ยงสารที่ให้เกิดภูมิแพ้ที่ถูกต้องและอาการของโรคภูมิแพ้ก็จะทุเลา
ในทางปฏิบัตินั้นการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้นทำได้ยาก เพราะชีวิตประจำวันนั้นต้องเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้กระจายอยู่รอบๆ ตัว เช่นฝุ่นบ้าน ไรฝุ่น เชื้อรา และอื่น ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้การรักษาอาการของโรคอันเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นและได้มักจะได้ผลดี แพทย์อาจให้รับประทานยาแก้แพ้ แก้หอบ แก้ไอร่วมด้วย เป็นต้น
อาหารที่ช่วยรักษาอาการภูมิแพ้
- ข้าวกล้อง เนื่องจากข้าวกล้องมีวิตามินอีและ บี หลายตัว ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือวิตามินบี 5 หรือแพนโทเทนิก จะช่วยลดอาการบวมของเยื่อบุจมูกและอาการคัดจมูกอันเนื่องมาจากภูมิแพ้ได้
- ผักสด ควรต้องเริ่มหัดรับประทานผักตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเริ่มจากผักที่ไม่มีกลิ่นฉุนเช่น ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว แตงกวา มะเขือเทศ เนื่องจากผักสดมีวิตามินซี ที่จะช่วยกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพในการขจัดการอักเสบมากขึ้นและทำให้อาการภูมิแพ้ลดลง นอกจากนี้ยังมีเบต้าแคโรทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวเก่งอีกด้วย
- ผลไม้ ผลไม้ที่มีรสออกฝาดถึงเปรี้ยวจะมีวิตามินซีสูง เช่นมะขามป้อม แต่ถ้าลูกไม่คุ้นกับผลไม้อื่นก็ใช้ผลไม้ทั่วไปก่อนเช่นส้ม ฝรั่ง องุ่น มะละกอ เช่นถ้าเป็นเด็กเล็กให้ดื่มน้ำแครอท หรือน้ำมะละกอคั้นวันละ 1 แก้ว หรือกินผลไม้วันละ 1 จานขนาดกลางก็พอ แต่สิ่งที่ควรเน้นคือความสด เช่นถ้าคั้นน้ำผลไม้ควรรับประทานทันที หรือภายใน 20 นาที ไม่เช่นนั้นวิตามินซีจะสลายไปก่อน คุณค่าของน้ำผลไม้แก้วนั้นก็จะลดลงไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้
- อาหารขยะ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาหารกรุบกรอบในซองสวย ๆ น้ำอัดลม ลูกอม ลูกกวาด เพราะทั้งหมดนี้มีสารปนเปื้อนแต่งสี แต่งกลิ่น ตลอดจนสารกันบูด สารกันเชื้อรา สารเหล่านี้จะกระตุ้นทำให้อาการของภูมิแพ้กำเริบได้
- นมวัว ในกรณีเด็กบางรายที่เคยมีอาการแพ้นมวัว ให้สงสัยว่าอาการภูมิแพ้ครั้งนี้อาจเกิดจากนมวัวอีกก็ได้ ดังนั้นควรลีกเลี่ยงนมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิดไปก่อนและรับประทานนมถั่วเหลืองทดแทน
- ผงชูรสควรงดเด็ดขาด เพราะโซเดียมในผงชูรส ทำให้ภุมิต้านทานอ่อนแอลงได้
- อาหารทอด อาหารมัน ถ้ารับประทานมากเกินไป ความมันจะกระตุ้นให้เกิดเสมหะในทางเดินหายใจ มีผลทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลงได้
แนวทางการรักษาอาการภูมิแพ้จากปัญญาสยาม สหคลินิก
1. ใช้สมุนไพรปรับธาตุทั้ง ๔ ให้สมบูรณ์
2. ยาสมุนไพรฟอกโลหิตบำรุงเลือด
3. การอบสมุนไพร ช่วยขับของเสียจากร่างกายออกทางเหงื่อ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น
4. ยาสมุนไพรรักษาตามอาการที่เป็น เช่น อาการคัน ผื่นแพ้ทางผิวหนัง
ท่านสามารถปรึกษาแนวทางการรักษาได้ที่ ปัญญาสยามสหคลินิก ได้ที่ 02 905-8202-3 ทุกวัน 10.00-20.00 น.